Toyota C-HR เปิดตัวครั้งแรกในโลก มาตั้งแต่ปี 2016 ใช้พื้นฐานตัวรถ หรือ Platform พัฒนาขึ้นใหม่ Toyota New Global Architecture (TNGA) และ เปิดตัวในไทยตามมาในช่วงปลายปี 2017 ครั้งแรกที่งาน Motor Expo เดือน พฤศจิกายน จากนั้นเปิดราคาอย่างเป็นทางการเดือน มกราคม 2018

ทำตลาดเรื่อยมา เสียงของลูกค้าเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนลายล้อใหม่ ให้สวยเหมือนเวอร์ชั่นยุโรป และ ญี่ปุ่น ที่เป็นล้อลายซากุระ และ เดือน กุมภาพันธ์ 2019 ก็ปรับอุปกรณ์เปลี่ยนล้อ 17 นิ้วลายใหม่ สีทูโทน เพิ่มทางเลือกสีตัวถังภายนอก สีขาวมุก หลังคาดำ และ เพิ่มเบาะหนังให้กับ C-HR รุ่นเริ่มต้น 1.8 Entry



ระหว่างทาง C-HR เวอร์ชั่นไทย มีรุ่นพิเศษออกมาด้วยกัน 3 รุ่น เริ่มต้นด้วย เดือน ตุลาคม 2018 กับ ADIDAS Japan แถม Set LIMITED EDITION 1,200 คัน จากนั้นเดือน พฤศจิกายน 2019 ก็เพิ่มชุดแต่ง NURBURGRING Edition ในราคาเพียง 9,000 บาท เท่านั้น

เมษายน 2020 เปิดตัว C-HR KARL LAGERFELD รุ่น Limited Edition เพิ่มเงินจากรุ่นปกติ 60,000 บาท ผลงานร่วมกับดีไซน์เนอร์ชื่อดังระดับโลก จากนั้น C-HR Minorchange เปิดตัวครั้งแรกในตลาดโลก เดือน ตุลาคม 2019 ในยุโรป ตามปกติแล้ว C-HR Minorchange น่าจะต้องเปิดตัวในไทยตามมาในช่วงปี 2020 แต่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้แผนทุกอย่างถูกเลื่อนออกไป



สำหรับขุมพลังของ Toyota C-HR เวอร์ชั่นไทย ณ วันเปิดตัว มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้

เบนซิน 1.8 (ยกเลิกทำตลาดในไทยแล้ว)

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2ZR-FBE 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ล็อคพูเล่ย์ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร รองรับน้ำม้น E85 ปล่อย CO2 150g./km.

เบนซิน 1.8 Hybrid

รหัส 2ZR-FXE DOHC 4 สูบแถวเรียง DOHC Atkinson cycle 16 วาล์ว VVT-i ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah

รวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์ และ มอเตอร์ไฟฟ้าให้ กำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ปล่อย CO2 100 g./km.



การเปิดตัว C-HR Minorchange ในไทย ตามแผนการที่วางเอาไว้ตั้งแต่ตอนเปิดตัว 2 ปีที่แล้ว ว่า C-HR Minorchange จะยกเลิกทำตลาดเครื่องยนต์เบนซิน และ เปิดตัว Corolla CROSS ในเดือน กรกฎาคม 2020 แต่ดูเหมือนว่า Corolla CROSS จะทำตลาดได้ดีเกินคาด จนทำให้บทบาทของ C-HR ถูกลดทอนลง จนข่าวคราวล่าสุด มีความเป็นไปได้สูงว่า Toyota ประเทศไทย อาจตัดสินใจไม่ทำตลาด C-HR Minorchange ต่อ และ ยกเลิกรุ่น เบนซิน 1.8 ลิตร ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 ตามแผนที่วางเอาไว้ ทำให้ตอนนี้บนหน้าเว็บไซต์ Toyota.co.th รุ่น C-HR เหลือเพียงเครื่องยนต์ Hybrid เท่านั้น

เหตุผลไม่ใช่อื่นใด นอกเสียจากอัตราภาษีสรรพสามิตในไทย ที่สนับสนุนรถยนต์ Hybrid และ รถยนต์ไฟฟ้า เทียบกันระหว่าง C-HR 1.8 และ C-HR 1.8 Hybrid มีดังนี้

  • C-HR เบนซิน 1.8 ลิตร เสียภาษีสรรพสามิต อัตรา 20%
  • C-HR เบนซิน 1.8 Hybrid เสียภาษีสรรพสามิต อัตรา 4%

ดังนั้นการทำราคาของรุ่นเบนซิน 1.8 ลิตร จึงมีข้อจำกัดมากกว่า Hybrid เนื่องจากเสียภาษีอัตราสูง ทำให้ไม่สามารถกดราคาให้ต่ำกว่ารุ่น Hybrid ได้ หากใส่ Option มาเทียบเท่ากัน ขัดแย้งกับความรู้สึกของลูกค้า ที่ยังไงรุ่นเบนซิน 1.8 ลิตร ควรจะต้องมีราคาถูกกว่า เบนซิน 1.8 Hybrid ดังนั้นสุดท้ายแล้ว จึงทำให้รุ่น เบนซิน 1.8 ลิตร ถูกถอดออกจากการทำตลาดไปในที่สุด และ ด้วยยอดขายของ Corolla Cross ที่ดีเกินคาด ทำให้การทำตลาด C-HR อาจไม่คุ้มค่า จนอาจไม่ทำตลาดรุ่น Minorchange ต่อ เพราะในตลาดโลกก็เปิดตัวมาตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2019 หรือ ผ่านมาปีกว่าๆแล้ว


เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.headlightmag.com


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/79364.0