ในยุคที่คำว่า Mobility ไม่ได้หมายถึงแค่รถยนต์อีกต่อไป แต่ยังรวมถึงทุกสิ่งที่ช่วยให้ผู้คนเคลื่อนไหวอย่างอิสระ บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งญี่ปุ่นอย่าง Toyota Motor Corporation ยังคงเดินหน้าในเส้นทางนั้นอย่างมุ่งมั่น ภายใต้แนวคิด Mobility for All หรือ ยานพาหนะสำหรับทุกคน ทุกช่วงวัย และทุกวิถีชีวิต
ที่งาน Japan Mobility Show 2025 ณ Tokyo Big Sight ปีนี้ Toyota ขนทัพแนวคิดอนาคตเต็มพื้นที่บูธ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว Corolla Concept ที่ปูทางสู่ยุคใหม่ของตระกูลรถยอดนิยม 16 รุ่น (ยังไม่รวมแบรนด์อื่นๆ ภายใต้ชายคา Toyota อย่าง Daihatsu, Lexus รวมถึงแบรนด์ Ultra Luxury ใหม่ล่าสุด อย่าง Century) มีตั้งแต่รถตู้ไฟฟ้า หุ่นยนต์เดินสี่ขา ไปจนถึง ยานยนต์ส่วนบุคคล ที่ออกแบบให้ทุกคนเข้าถึงการเดินทางได้เท่าเทียมกัน
Corolla Concept
ชื่อ Corolla อยู่คู่ Toyota มานานกว่า 50 ปี และในครั้งนี้มันกลับมาอีกครั้งในฐานะต้นแบบของยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด “Uncompromising Design, Made Just for You” รถยนต์ต้นแบบคันนี้ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นเพียงร่างจำแลงของ Corolla รุ่นถัดไป แต่เพื่อเป็น กรอบแนวคิดใหม่ของทั้งตระกูล Corolla ที่จะเปิดทางให้ทีมวิศวกรสามารถพัฒนาได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Sedan, Hatchback หรือแม้แต่ Crossover ขุมพลังไฟฟ้า
ตัวรถเน้นเส้นสายเรียบแต่ทรงพลัง เน้นสัดส่วนที่สมดุลระหว่างความสปอร์ตและความอเนกประสงค์ ด้านเทคโนโลยีโครงสร้างใหม่รองรับทั้ง เครื่องยนต์สันดาปล้วน, ขุมพลัง Hybrid และขุมพลังไฟฟ้า BEV อย่างยืดหยุ่น นั่นทำให้ Corolla Concept เปรียบเหมือน สมุดเปล่าเล่มใหม่ ของ Toyota ที่พร้อมให้วาดภาพอนาคตของรถยนต์โลกอีกครั้ง โดยคาดว่าเวอร์ชั่นผลิตจำหน่ายจริงของ Corolla รุ่นใหม่ จะออกสู่สายตาชาวโลกในอีก 1-2 ปีข้างหน้า และอาจประเดิมด้วยตัวถัง Sedan ก่อนตัวถังจะตามมา

Land Cruiser FJ & Land Hopper
ในอีกฟากหนึ่งของบูธ เสียงแฟลชจากสื่อทั่วโลกแทบไม่หยุดเมื่อผ้าใบคลุมตัวรถถูกเปิดออก เผยให้เห็นโฉมของ Land Cruiser FJ รถ SUV ทรงกล่องสี่เหลี่ยม บนพื้นฐานงานวิศวกรรมกระบะ Hilux ตระกูล IMV ที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด Freedom & Joy สื่อถึงความ อิสระและความสนุก ของการใช้รถ Land Cruiser เพื่อขยายขอบเขตของตระกูลออกไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยยังคง DNA เดิมของ Land Cruiser ไว้ครบทั้ง ความทน ความอึด และขับลุยได้จริง แต่มาในขนาดและบุคลิกที่จับต้องง่ายขึ้น
ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ เครื่องยนต์รหัส 2TR-FE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2,694 ซีซี. กระบอกสูบ x ช่วงชัก 95.0 x 95.0 มิลลิเมตร (ห้องเผาไหม้แบบ Square) กำลังอัด 10.2 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด EFI พร้อมระบบแปรผันวาล์ว Dual VVT-i กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (PS) ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 246 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift ขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-time 4WD มีโหมดการขับเคลื่อนแบบ Part-time 4WD เลือกปรับได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L พร้อมฟังก์ชั่นการขับขี่ เช่น ระบบล็อกเฟืองท้าย ระบบออกตัวด้วยเกียร์ 2 (2nd Start) ตลอดจนระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Decent Control
จุดขายอีกอย่างของ Land Cruiser FJ คือความสนุกในการ แต่งเล่น กันชนและชิ้นส่วนรอบคันถอดเปลี่ยนได้ง่าย โตโยต้าจะออกชุดแต่งหลายสไตล์ให้เลือกทั้งแนว Overland, Urban หรือ Adventure พร้อมอุปกรณ์เสริมอย่าง แผง MOLLE สำหรับติดตั้งอุปกรณ์กลางแจ้ง อีกทั้งยังมี Land Hopper ยานพาหนะไฟฟ้าส่วนบุคคล ที่ Toyota ตั้งใจให้ใช้ร่วมกับ FJ เพื่อพาคุณออกไป ขี่เล่นนอกทางหลัก ในทริปเดียวกันด้วย
Kago-Bo / Kayoibako / Kayoibako-L / Kayoibako-XL
หาก Corolla คืออนาคตของรถยนต์ทั่วไป และ FJ คือการตีความใหม่ของตำนาน Off-road รถต้นแบบทรงกล่องชื่อว่า Kayoibako ก็คือ ก้าวแรกของ Toyota ในการสร้างสังคมแห่งการเคลื่อนไหว ชื่อของมันมาจากคำว่า กล่องขนส่งหมุนเวียน ที่ใช้ในโรงงานญี่ปุ่น ซึ่ง Toyota นำแนวคิดนี้มาตีความใหม่ให้กลายเป็น กล่องที่เคลื่อนที่ได้ หรือ Moving Box พื้นที่พื้นฐานของสังคมยุคใหม่ที่ทุกคนสามารถใช้งานร่วมกันได้
ตัวรถเป็นเชิงพาณิชย์ขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ (Modular Electric Van) ใช้โครงสร้างพื้นราบปรับเปลี่ยนได้อิสระ สามารถติดตั้งตู้สินค้า อุปกรณ์ทำงาน หรือชุดที่นั่งโดยสารได้ตามต้องการ
เหมาะทั้งกับธุรกิจส่งของรายย่อย, รถบริการในชุมชน หรือแม้แต่เป็นคาเฟ่เคลื่อนที่ก็ยังได้
ดีไซน์เรียบแต่แฝงพลัง ด้วยเส้นสายสี่เหลี่ยมคมชัด แถบไฟ LED เต็มแนวกว้างด้านหน้าทำหน้าที่ทั้งไฟส่องสว่างและจอแสดงข้อความโต้ตอบกับผู้คนบนท้องถนน สื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่าง คน–เมือง–ยานยนต์ อย่างลงตัว
Toyota ยังขยายแนวคิดนี้ต่อยอดเป็น Kayoibako (Hiace Concept) 2 รุ่นใหม่ ได้แก่
- Kayoibako-L รุ่นขยายขนาดเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ เปลี่ยนพื้นที่ว่างให้กลายเป็นสำนักงานเคลื่อนที่หรือศูนย์บริการนอกสถานที่
- Kayoibako-XL รุ่นใหญ่สุดที่ดัดแปลงเป็น คลินิกสุขภาพเคลื่อนที่ พร้อมระบบสื่อสารทางไกล (Telemedicine) เชื่อมต่อกับโรงพยาบาลท้องถิ่น
ทั้งหมดนี้ คือภาพสะท้อนของแนวคิด Mobility as Social Infrastructure หรือ การมองยานยนต์ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานของสังคม ไม่ใช่แค่พาหนะ
IMV Origin
Toyota ไม่ลืมรากเหง้าในภูมิภาคเอเชีย IMV Origin จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อย้ำว่าการผลิตรถในประเทศกำลังพัฒนา ก็สามารถสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคมได้ ตัวรถออกแบบให้เรียบง่าย ประกอบ ซ่อม และดัดแปลงได้เอง เน้นสร้างงานในท้องถิ่นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบยั่งยืน พูดง่ายๆ คือ การคืนกำไรให้ชุมชนด้วยเทคโนโลยี นั่นเอง
Chibibo
Chibibo ถูกพัฒนาภายใต้เป้าหมาย ทำให้โลจิสติกส์ในเมืองเล็กลงแต่ฉลาดขึ้น โครงสร้างแบบ 4 ขา (Quadruped) มอบความคล่องตัวสูงกว่า Robot Delivery ทั่วไป สามารถเดินบนทางลาดชันหรือพื้นขรุขระได้ AI ของมันใช้ระบบแผนที่แบบเรียลไทม์ (Real-time Mapping) ทำให้วิเคราะห์เส้นทางและอุปสรรคได้เองโดยไม่ต้องมีรางนำทาง
Toyota ตั้งใจให้ Chibibo เป็น หุ่นยนต์ร่วมงานกับคน (Human Collaboration Robot) มากกว่าการทดแทนมนุษย์ เป็นภาพของเพื่อนร่วมงานที่ไม่เคยบ่น สำหรับโลจิสติกส์แห่งอนาคต
Walk Me
Walk Me ใช้ระบบขาแบบ Adaptive Suspension 4 จุด ที่เลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (เหมือน Spot ของ Boston Dynamics) แต่ Toyota ปรับโทนให้เข้ากับมนุษย์ทั่วไปมากกว่า รูปลักษณ์ไม่ดุดัน แต่เป็นมิตรและมีโหมดช่วยทรงตัวอัตโนมัติ (Auto Balance Assist)
ผู้ใช้สามารถนั่งหรือยืนควบคุมได้ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการที่ยังต้องการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านด้วยตัวเอง แนวคิดทั้งหมดคือ Go Anywhere, Cool for Everyone! ทำให้การช่วยเหลือกลายเป็นสิ่งที่ดูเท่ ไม่ใช่สิ่งที่น่าสงสาร
Challenge Me
Challenge Me คือยานยนต์ที่เปลี่ยนภาพของ Wheelchair ให้กลายเป็น Adventure Machine มันใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแรงบิดสูง แยกขับเคลื่อนแต่ละล้อ พร้อมระบบ Auto-Traction Control ที่ปรับแรงขับตามสภาพพื้น ช่วงล่างยืด-หดได้แบบอิสระ เพื่อให้ปีนเนินหรือขึ้นบันไดได้โดยไม่เสียสมดุล
ดีไซน์ภายนอกให้ความรู้สึกเหมือนเก้าอี้ลุยผสมกับ ATV เป็นสัญลักษณ์ของความท้าทายของผู้ใช้งาน ในเชิงสัญลักษณ์ Toyota ต้องการบอกว่า แม้ร่างกายจะจำกัด แต่เส้นทางชีวิตไม่จำเป็นต้องจำกัดตาม
Kids mobi
ในอีกมุมของบูธ Toyota แสดงผลงานที่อบอุ่นหัวใจไม่แพ้กันอย่าง Toyota Kids mobi พาหนะส่วนบุคคลขนาดจิ๋วที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ตัวรถขับเคลื่อนด้วย AI ที่มอบทั้ง ความปลอดภัย และ การเรียนรู้ ไปพร้อมกัน เด็กๆ สามารถควบคุมทิศทางผ่านการเคลื่อนไหวร่างกาย และในเวลาเดียวกัน ระบบ UX Friend จะโต้ตอบผ่านเสียงและภาพ เพื่อกระตุ้นพัฒนาการและความคิดสร้างสรรค์ของผู้ขับขี่ตัวน้อย มันคือการสอนให้เด็ก รักการเคลื่อนไหว อย่างปลอดภัยตั้งแต่ก้าวแรกในชีวิต
CYBER LOVE
อีกหนึ่งผลงานสุดแหวกแนวคือ CYBER LOVE ยานพาหนะที่ Toyota เรียกว่า เครื่องจักรนำทางโลก AR ด้วย AI ตัวรถถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อโลกจริงกับโลกเสมือน (Augmented Reality) อย่างสมบูรณ์แบบ มีจอแสดงผลแบบเต็มหน้าจอและฟังก์ชันขับเคลื่อนระยะไกล
ผู้ชมสามารถ ขึ้นไปขับในโลกเสมือนจริง เพื่อสำรวจคอนเซปต์คาร์ทั้งหมดของ Toyota ภายในงานได้ เหมือนการผจญภัยในจักรวาลแห่งเทคโนโลยีที่มีชีวิต CYBER LOVE จึงเปรียบเหมือน ประตูสู่โลกใหม่ของ Toyota ที่พาคนเข้ามาสัมผัสอนาคตรถยนต์ผ่านประสบการณ์แบบอินเทอร์แอกทีฟ
KB LIFTER
รถขนส่งไฟฟ้าขนาดเล็กที่ Toyota สร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ การขนของที่ใครก็ทำได้ จุดเด่นคือไม่ต้องมีใบอนุญาตพิเศษในการขับขี่ ใช้งานง่ายแต่ทรงพลัง สามารถยกและลดสินค้าที่มีน้ำหนักได้สูงสุด 150 เซนติเมตร ด้วยระบบไฮดรอลิกไฟฟ้า เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก ร้านค้า หรือคลังสินค้าที่ต้องการย่นเวลาการขนส่งโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องจักรใหญ่
Toyota เรียกมันว่า Mobility Platform เพราะมันไม่ใช่แค่รถยก แต่คือเครื่องมือที่ทำให้ทุกคนจัดการโลจิสติกส์ได้เอง
coms-x
ต่อเนื่องจากแนวคิด KB LIFTER คือ coms-x ยานยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋วที่พัฒนาเพื่อภารกิจ Last-mile Delivery โดยเฉพาะ ดีไซน์กะทัดรัด ขับขี่ง่าย ปลอดภัย และรองรับการปรับแต่งห้องบรรทุกได้ตามธุรกิจ ตั้งแต่ส่งอาหารจนถึงพัสดุขนาดกลาง
Toyota ตั้งใจให้ coms-x เป็น พันธมิตรธุรกิจที่ใครก็เข้าถึงได้ และเป็นสัญลักษณ์ของเศรษฐกิจชุมชนในยุคไร้มลพิษ
boost me
จบด้วยผลงานที่สนุกที่สุดในบูธอย่าง boost me สปอร์ตโมบิลิตีไฟฟ้าที่ออกแบบให้ ทุกคนสามารถเล่นกีฬาได้เท่าเทียมกัน ด้วยโครงสร้างแฮนด์ฟรี ควบคุมทิศทางด้วยการเอียงตัว หมุนลำตัว หรือก้มเงยผ่านการใช้แกนกลางของร่างกาย สามารถปรับให้เข้ากับกีฬาหลากหลายประเภท เช่น สกี สเก็ต หรือบอร์ดจำลอง นี่ไม่ใช่แค่เครื่องเล่น แต่คือแนวคิดใหม่ของ Toyota ที่จะคืนความสนุกของการเคลื่อนไหวให้มนุษย์ทุกวัย
ในภาพรวม Toyota ได้ใช้เวที Japan Mobility Show 2025 เพื่อยืนยันอีกครั้งว่า การเคลื่อนไหวคือหัวใจของชีวิตทุกแนวคิดที่ปรากฏในบูธ ไม่ว่าจะเป็น Corolla Concept, Land Cruiser FJ หรือ Kayoibako ล้วนสื่อสารเรื่องเดียวกัน คือ อิสรภาพในการเดินทางไม่ควรจำกัดอยู่แค่บางคน แต่มันควรเป็นสิทธิของทุกคน
จากแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก วันนี้ Toyota กำลังแปรสภาพเป็น ผู้ออกแบบระบบนิเวศแห่งการเดินทาง ที่จะเชื่อมโยงผู้คน เมือง และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน เพราะสำหรับ Toyota แล้ว… การเดินทางของคุณ ไม่ใช่แค่เป้าหมายของเรา แต่มันคือ พันธกิจของพวกเขา
———-//———-
