Toyota Crown นับว่าเป็นรุ่นรถ (Nameplate) ที่มีอายุทางการตลาดยาวนานถึง 62 ปีแล้วนับตั้งแต่ปี 1955 ถ้าเปรียบเทียบกับอายุของมนุษย์ก็นับว่าเข้าสู่วัยชราอย่างเต็มตัว แต่ยังป็นคนชราที่แข็งแรงและมีวิวัฒนาการตัวเองอยู่ไม่น้อย เพราะ Toyota พยายามสรรหาแนวคิดและมุขทางการตลาดเพื่อให้รถยนต์เรือธงรุ่นนี้มีอายุทางการตลาดยืนยาวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ล่าสุด Toyota ได้เผยโฉม Crown Concept สำหรับอวดโฉมคันจริงที่งาน Tokyo Motorshow 2017 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2017 เป็นการส่งสัญญาณว่า All NEW Toyota Crown รุ่นที่ 15 จะเริ่มมีวิวัฒนาการที่แตกต่างจากในอดีต

Toyota Crown Concept จะถูกพัฒนาขึ้นบนชุดโครงสร้างพื้นตัวถังและงานวิศวกรรมร่วม TNGA (Toyota New Global Architecture) ที่จะช่วยฟื้นคืนสมรรถนะการขับขี่น่าสนุกสนานตามสโลแกน ‘Fun to Drive’ จนถึงขั้นนำรถยนต์ไปทดสอบในสนาม Nürburgring ประเทศเยอรมนี เพื่อให้แน่ใจว่า Toyota Crown Generation ที่ 15 มีสมรรถนะการบังคับควบคุม, มีเสถียรภาพขณะขับขี่ทั้งความเร็วต่ำและสูง บนพื้นผิวถนนทั้งแบบเรียบหรือทางขรุขระ โดยที่ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ได้อย่างง่ายดาย และสามารถเข้าถึงความสนุกสนานในการขับขี่

มิติตัวถังภายนอก
ยาว x กว้าง x สูง : 4,910 x 1,800 x 1,455 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ (Wheelbase) : 2,920 มิลลิเมตร

ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือการเปลี่ยนทิศทางการออกแบบจากรถยนต์ Sedan ขับเคลื่อนล้อหลังที่มีบุคลิกดูสง่างามและแข็งแกร่งที่เอาใจลูกค้าชาวญี่ปุ่น ก็กลับกลายเป็นรถยนต์ Sedan ที่มีเส้นสายเรียบง่ายแบบสากลมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวกรอบกระจกหน้าต่างผู้โดยสารเป็นแบบ 6 Windows โดยมีดีไซน์ด้านหน้าที่ดูคล้ายคลึงกับรถยนต์ระดับหรูจากค่ายเยอรมันมากขึ้น คาดว่าความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เป็นการปรับตัวเพื่อสร้างเอกภาพแก่แบรนด์ Toyota มากยิ่งขึ้น

ไฮไลต์สำคัญสำหรับ Toyota Crown Concept คือการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตสมบูรณ์แบบเพื่อการเตรียมก้าวเข้าสู่ยุค internet of things (iot) โดยผ่านโมดูลการเชื่อมต่อ DCMs (Data Communication Modules) ที่รองรับข้อมูลขนาดมหึมา (ที่คนในวงการไอทีเรียกว่า Big Data)

แนวคิด “การสร้างรถยนต์ที่ปลอดภัยคันหนึ่ง” เพื่อ “สังคมเมืองโดยรวมที่ปลอดภัย” คือหัวใจสำคัญในการพัฒนาระบบสื่อสาร ITS (Intelligent Transport System) ที่สามารถแชร์ข้อมูลทุกสิ่งอย่างรวมไปถึงข้อมูลไฟสัญญาณการจราจรและข้อมูลรถยนต์อื่น ๆ ในขณะนี้ Toyota กำลังพัฒนาอยู่ในขั้นเริ่มต้น และจะมีการทดสอบทั้งในที่ลับและในที่สาธารณะ

การนำข้อมูลขนาดมหึมามาใช้งานจะช่วยสร้างสังคมยานยนต์ที่น่าอยู่ขึ้น เช่น ช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัด โดยการนำข้อมูลการจราจรมาประมวลผล นอกจากนี้ Toyota ยังมีเป้าหมายสั่งงานให้มีการวินิจฉัยอาการรถยนต์ระยะไกลผ่านโมดูลเก็บข้อมูล DCMs เพื่อคาดการณ์ปัญหาและความจำเป็นในการบำรุงรักษา นอกจากนี้ยังมีบริการ Call Center เพื่อคอยให้บริการลูกค้าด้านความปลอดภัย

รายละเอียดทั้งหมดจะเปิดเผยที่งาน Tokyo Motorshow 2017

ที่มา : Motor1