Toyota Motor Thailand (บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด) เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ 2505 โดยปัจจุบันนับเป็นปีที่ 55 ที่ Toyota เติบโตเคียงคู่สังคมไทย ซึ่งดำเนินธุกิจภายใต้แนวคิด “ ขับเคลื่อนความสุข ” หรือ “ Mobility of Happiness ” โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างรอยยิ้มและส่งความสุขให้กับคนไทย ผ่านนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และการบริการ ด้านการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการทำกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อเป็นการตอบแทนสังคมไทยที่ได้ร่วมทางตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

และ ในโอกาสครบรอบ 55 ปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดแสดงนิทรรศการ นวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตของโตโยต้า ” Toyota Expo “ ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของ Toyota กับประเทศไทยตลอด 55 ปี รวมถึงการแสดงเทคโนโลยีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตในอนาคต ภายใต้แนวคิด ” The Future is Here ”

ก่อนเข้านิทรรศการของ Toyota มีการจัดแสดงเรื่องราวพระราชกรณียกิจ ไม่ว่าจะเป็นโครงการพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร และ พระบรมวงศานุวงศ์

เช่น เรื่องราวของรถยนต์พระที่นั่ง Toyota Soluna คันนี้

เรื่องราวนี้นำมาจาก สารสภาวิศวกรรม ฉบับเดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม 2550 เป็นเรื่องเล่าโดย คุณนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คุณนินนาท ได้เล่าว่า

สิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้แก่ตนเอง และ พนักงานโตโยต้าทุกคน คือ เมื่อกลางปี พ.ศ. 2540 ที่ประเทศไทยประสบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ในวันที่ 5 พ.ย.2540 มีข่าวในหน้า นสพ.ว่า ทางโตโยต้าจะปิดโรงงานลอยแพ พนักงาน 5,500 คน ซึ่งกระทบภาพลักษณ์บริษัท ขวัญและกำลังใจของพนักงานอย่างยิ่ง

ในบ่ายวันเดียวกัน ทางบริษัทฯ ได้จัดแถลงข่าว เพื่อแก้ข่าวที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า บริษัทไม่เคยคิดปิดโรงงาน และ เลิกจ้างพนักงาน ต่อมามีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใย พนักงานโตโยต้า

ในเช้าวันที่ 6 พ.ย. 2540 เลขานุการส่วนพระองค์ได้ โทรศัพท์ถึง คุณนินนาท และแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมี พระราชประสงค์ สั่งซื้อรถโตโยต้าโซลูน่า 1 คัน โดยให้พนักงาน ใช้มือทำก็ได้ ไม่ต้องใช้เครื่องจักร ไม่ต้องรีบ พนักงานคนไทย จะได้มีงานทำนานๆ ประโยคนี้สร้างความปลื้มปิติยินดีแก่พนักงานโตโยต้าเป็นอย่างมาก

เมื่อนำรถคันดังกล่าวไปถวายพระองค์ในเดือน ธ.ค.2540 พระองค์ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นเช็คเงินสด 600,000 บาท โดยทรงพระราชทาน แนวพระราชดำริว่า ให้โตโยต้า ไปตั้งโรงสีข้าวเพื่อช่วยเหลือชาวนา ซึ่งมีปัญหา 2 อย่าง เวลาเก็บข้าวในยุ้งฉาง มักเสียหายและถูกขโมยบางส่วน เวลาสีเป็นข้าวสารก็ขายไม่ได้ราคา โตโยต้ามีการบริหารจัดการที่ดี ควรตั้งโรงสีข้าวตัวอย่าง เมื่อสีข้าวได้แล้วขายในราคาสวัสดิการ ให้แก่พนักงาน และ ขายผลพลอยได้ เช่น แกลบ รำ ให้แก่เกษตรกรชุมชน ที่เลี้ยงหมูและ เป็นที่มาของ บริษัท ข้าวรัชมงคล จำกัด

หลังจากนั้นจึงมี Toyota Soluna รุ่นพิเศษออกมา ผลิตจำนวนจำกัด 600 คัน ด้านท้ายรถบนฝากระโปรงหลังจะติดตัวอักษร (emblem) ด้านซ้ายด้วยเลขไทย ” ๑.๕ ” และ ด้านขวาเป็นชื่อรุ่น ” โซลูน่า ” มีออกมาด้วยกัน 2 สี คือ 1. สีทองอ่อน คาดสีน้ำตาลข้างล่าง 2. สีเงินอมฟ้า คาดสีเทาดำข้างล่าง

จากนั้นจะเป็นการเข้าสู่นิทรรศการของ Toyota

ภายในงานแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่

โซนที่ 1 : สังคมแห่งความยั่งยืน (Sustainable Society)

นำเสนอประวัติการดำเนินธุรกิจ รวมถึงหลักการสำคัญที่เป็นรากฐานทางธุรกิจของโตโยต้า  ตลอดระยะเวลา 55 ปีที่ผ่านมา อาทิ

  1. ปรัชญาของโตโยต้า (Toyota Philosophy)
  2. ระบบการผลิตระบบโตโยต้า และ โครงการโตโยต้าชุมชนพัฒน์ (Toyota Production System & Toyota Social Innovation)
  3. โรงงานแห่งความยั่งยืน และ โครงการโตโยต้าเมืองสีเขียว (Sustainable Plant & Toyota Green Town)
  4. โครงการถนนสีขาว และ โครงการสาทรโมเดล (Toyota White Road & Sathorn Model)

โซนที่ 2 : ขับเคลื่อนความสุขสู่โลกอนาคต (Mobility of Happiness)

  • นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ของโตโยต้า ผ่านเทคโนโลยีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในแต่ละยุคสมัย ตั้งแต่ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้พลังงานจากฟอสซิล สู่เครื่องยนต์ระบบไฮบริดที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า ต่อเนื่องไปสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ใช้พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงสุดที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยอันล้ำสมัย เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไปปลอดภัย มั่นใจ ลดโอกาส และความสูญเสียในการเกิดอุบัติเหตุทางจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • นำเสนอระบบการเดินทางทางเลือก (New Mobility Service in Thailand) เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มช่องทางการเดินทางในระยะสั้น ผ่านระบบ “Ha:mo”(Harmonious Mobility Network) และแอพพลิเคชั่นค้นหาที่จอดรถ “Park & Go” เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต และลักษณะการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมเมือง โดยจะเริ่มทดลองใช้ครั้งแรกในประเทศไทยภายในปีนี้ รวมถึงความล้ำสมัยในการเชื่อมโยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รอบตัว (Telematics) เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน

โซนที่ 3 : นวัตกรรมการบริการล้ำสมัย (Future Showroom & Service)

นำเสนอรูปแบบการให้บริการแบบล้ำสมัย ซึ่งประกอบไปด้วยนวัตกรรมการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการให้บริการของพนักงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงระบบการให้บริการหลังการขายแบบครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการแบบพิเศษเหนือความคาดหมาย

นอกเหนือจากการจัดนิทรรศการ งาน Toyota Expo ที่ Siam Paragon 3 – 13 สิงหาคม 2560 นี้แล้ว Toyota Motor Thailand ยังมีแผนที่จะจัดนิทรรศการนี้ไปยังภูมิภาคอื่นๆด้วยเช่นกัน ดังนี้

  • 3 – 13 สิงหาคม 2560 : Siam Paragon
  • 2 – 10 กันยายน 2560 : Central Plaza ขอนแก่น
  • 14 – 21 กันยายน 2560 : Central Plaza Airport เชียงใหม่
  • 30 กันยายน – 8 ตุลาคม 2560 : Central Festival หาดใหญ่