หลังจากเผยโฉมครั้งแรกในปี 2021 ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้า BEV รุ่นแรกของค่าย Toyota ที่มุ่งเจาะตลาด EV อย่างจริงจัง แม้ยอดขายจะไม่เปรี้ยงนักในช่วงที่ผ่านมา แต่ Toyota ก็ยังเดินหน้าพัฒนารุ่นนี้ต่อเนื่อง ล่าสุด bZ4X รุ่นปรับโฉม Minorchange ปี 2025 ได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับดีไซน์รอบคันที่ทันสมัยขึ้น พร้อมขุมพลังไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ที่ทรงพลังขึ้น และวิ่งได้ไกลขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด EV
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา มีการเผยภาพรถทดสอบ bZ4X Minorchange พรางตัววิ่งบนถนนในไทย โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Babyfresh Oum สมาชิกกลุ่ม EV Club Thailand Group ซึ่งเป็นสัญญาณชัดว่า Toyota กำลังเดินหน้าเตรียมเปิดตัวรุ่นนี้ในไทยเร็วๆ นี้
แหล่งข่าววงใน เปิดเผยกับทีมงาน Headlightmag ว่า Toyota ประเทศไทยมีแผนนำเข้า bZ4X Minorchange แบบ CBU (Completely Built-up) จากญี่ปุ่น โดยขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบคุณภาพก่อนจำหน่ายจริง โดยกำหนดการเปิดตัวในไทย คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในช่วง ปลายปี 2025 นี้ แต่หากมีความล่าช้า อาจถูกเลื่อนไปเป็นช่วง ต้นปี 2026



Toyota bZ4X รุ่นปรับโฉมปี 2025 ได้รับการปรับดีไซน์การออกแบบด้านใหม่โดยใช้ธีม Hammerhead เวอร์ชั่นล่าสุด เส้นสายกระจังหน้ามีความเหลี่ยมสันมากขึ้น พร้อมติดตั้งชุดไฟ Daytime Running Light รูปทรงตัว C แยกชุดกับไฟหน้าหลักที่ย้าย LED Projector Lens ไปอยู่บริเวณเปลือกกันชนหน้า นอกจากน้ี ยังปรับเปลี่ยนล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว เป็นลวดลายใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่างของรุ่นก่อนและหลัง Minorchange เมื่อมองจากด้านข้าง






ภายในห้องโดยสาร ได้รับการปรับดีไซน์ของส่วนต่างๆ เริ่มจากช่องปรับอากาศที่ออกแบบให้กลมกลืนไปกับแผงคอนโซลหน้า พร้อมติดตั้งไฟ Ambient Light ตามสมัยนิยม แผงคอนโซลกลางดีไซน์ใหม่ถูกออกแบบเพื่อให้เอื้อต่อการติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charger 2 ตำแหน่ง พร้อมสวิตช์ควบคุมเกียร์แบบ Shift-by-Wire ซึ่งย้ายตำแหน่งเข้าใกล้ตัวคนขับมากขึ้น





เดิมทีขุมพลังขับเคลื่อนของ Toyota bZ4X จะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 204 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 218 แรงม้า พ่วงด้วยแบตเตอรี่ 71.4 kWh วิ่งได้ไกลสุด 411 กิโลเมตร (WLTP) ทว่าในรุ่นนี้ อัพเกรดมาใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนและแบตเตอรี่ High-voltage ชุดใหม่ทั้งหมด โดยมีให้เลือก 3 รูปแบบ ดังนี้
Single Motor 57.7 kWh
ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 123 กิโลวัตต์ หรือ 167 แรงม้า (PS) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 57.7kWh พร้อมระบบ Battery Pre-conditioning รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 22kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 150kW
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 8.6 วินาที
- ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำได้ 445 กิโลเมตร (WLTP)
Single Motor 73.1 kWh
ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 165 กิโลวัตต์ หรือ 224 แรงม้า (PS) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 73.1kWh พร้อมระบบ Battery Pre-conditioning รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 22kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 150kW
ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.4 วินาที
- ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำได้ 573 กิโลเมตร (WLTP)
Dual Motor 73.1 kWh
ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD พร้อมระบบควบคุมแรงบิด X-MODE ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุด 252 กิโลวัตต์ หรือ 342 แรงม้า (PS) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 73.1kWh พร้อมระบบ Battery Pre-conditioning รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 22kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 150kW
ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 5.1 วินาที
- ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำได้ 523 กิโลเมตร (WLTP)
Toyota bZ4X ใหม่ มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร การรับประกันแบตเตอรี่ High-voltage นานสูงสุดถึง 10 ปี หรือ 1,000,000 กิโลเมตร พร้อมการันตีว่าค่า SoH หรือ State of Health ของแบตเตอรี่ High-volatge จะอยู่ที่ระดับมากกว่า 70% หลังผ่านการใช้งานไปเป็นระยะเวลา 10 ปี






แหล่งข่าวของ Headlightmag ระบุเพิ่มเติมว่า Toyota กำลังเร่งทดสอบก่อนที่จะนำ bZ4X ใหม่ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยให้ทันภายในปี 2025 นี้ อีกทั้งยังพยายามทำราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ bZ4X ให้อยู่ในระดับที่ลูกค้าทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม เพื่อขยายฐานลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้าในไทยให้กว้างขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาจริงจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไป
———–//———–