Mazda อาจไม่ได้มียอดขายรถตัวถังทั่วไปไปขิงกับใครเค้าตลอดปี 2023 ที่ผ่านมา แต่ทว่า ยอดขายของรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่หาตัวจับยากกลับขายได้ในตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนกว่า 8,973 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2022 เป็นอัตราส่วนถึง 45.4 % โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นรุ่นหลังคาแข็งจำนวนมากกว่า 78% ขณะที่เหลือจะเป็นยอดจากรุ่นหลังคาแข็ง

ในทางกลับกัน เมื่อพิจารณายอดขายของปี 2022 Mazda ได้กล่าวว่ายอดขายของรุ่นหลังคาแข็งนั้นมีมากกว่ารุ่นหลังคาอ่อน ถึง 1,000 คัน นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้ชัด ทั้งการเพิ่มขึ้นของยอดขายโดยรวมและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค

 

ขณะที่ยอดขายโดยรวมของรถทุกรุ่นในตลาดเดียวกันนี้ก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นกว่า 23.3% โดยความนิยมรถตัวถัง SUV ของแบรนด์ Mazda ยังคงพึ่งพาได้อยู่เช่นเคย ซึ่งรถรุ่นที่ขายดีที่สุดหนีไม่พ้น CX-5 ที่ขายไปได้มากกว่า 153,808 คัน ตามมาด้วยน้องเล็กในตลาดอเมริกันอย่าง CX-30 ด้วยจำนวน 77,075 คัน และพี่ใหญ่ CX-90 ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นานด้วยตัวเลขยอดขาย 30,821 คัน

 

เมื่อกลับมามองฝั่งรถสปอร์ตเปิดประทุนตัวเล็ก ที่ตลาดประเทศญี่ปุ่นบ้านเกิดเพิ่งจะมีการปรับโฉมไปไม่นาน โดยในรหัส ND3 ที่ได้รับการปรับงานออกแบบด้านหน้าและด้านท้ายใหม่ เปลี่ยนไปใช้ไฟหน้า LED ที่มาพร้อมไฟ DRL แบบประกอบเข้าชุดกับโคม และไฟท้ายมาพร้อมการออกแบบใหม่ใช้ LED ล้วนทั้งโคม และยังได้อัพเกรดหน้าจอกลางขนาด 8.8 นิ้ว รวมไปถึงออกแบบคอนโซลหน้าใหม่ให้เข้ากับหน้าจอ

 

สำหรับอนาคตของรถรุ่นนี้ต้องบอกว่ายังได้ไปต่อ เนื่องจาก Mazda จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ MX-5 รหัส ND วางจำหน่ายต่อไปเท่าที่จะทำได้ เพราะ Mazda มั่นใจว่ารถยนต์รุ่นนี้ยังมีกลุ่มตลาดกระจายอยู่ทั่วโลก

ที่มา: Motor1


อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเวอร์ชั่นปรับโฉม JDM ได้ที่:

Mazda MX-5 MY2024 เวอร์ชั่น JDM ปรับไฟหน้า-ท้าย เพิ่มจอกลาง 8.8 นิ้วและ LSD ประเดิมที่ตลาดญี่ปุ่น มกราคม 2024 นี้