บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 – Bangkok International Motor Show 2023

ระยะเวลาการจัดงาน – ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566

รอบ VIP 20 มีนาคม 2566

รอบสื่อ 21 มีนาคม 2566

เวลาเปิด/ปิดงาน

  • วันจันทร์ – ศุกร์ : 12.00 น. – 22.00 น.
  • วันเสาร์ – อาทิตย์ : 11.00 น. – 22.00 น.

 

กลับมาอีกครั้งกับงานจัดแสดงรถยนต์ประจำต้นปี Bangkok International Motor Show 2023 นี่เป็นปีที่ 44 ที่ทาง Grand Prix ได้จัดงานนี้ขึ้นมา และดูเหมือนว่าปีนี้ทั้งทางบริษัทรถยนต์ และผู้บริโภค ต่างก็มีความอัดอั้นกันมานาน เพราะมีการเปิดตัวรถยนต์ใหม่หลากหลายรุ่น หลากหลายสไตล์ เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่ถวิลหากันทั้งรถยนต์ในรูปแบบขุมพลังสันดาปดั้งเดิม และรถยนต์ขุมพลังแห่งอนาคตมอเตอร์ไฟฟ้า เรียกได้ว่า ไม่ว่าความต้องการจะเป็นอย่างไร ก็จะมีรถที่ตอบสนองให้อย่างแน่นอน (ก็ต่อเมื่อถ้าท่านมีกำลังที่จะจ่าย!)

สำหรับวันนี้ เราจึงอยากที่จะมานำเสนอ รวมไฮไลท์รถรุ่นใหม่ ๆ น่าสนใจประจำบูธของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ เพื่อเป็นเป้าหมายให้กับท่านที่กำลังจะไปงาน พุ่งตรงไปยังรถที่อยากจะชื่นชมมากที่สุดได้อย่างแม่นยำ


Aston Martin

 

เริ่มต้นกันที่ค่ายรถสปอร์ตคู่หูสายลับอังกฤษ Aston Martin ซึ่งในปีนี้ขนรถมาจัดแสดงด้วยกัน 2 รุ่น ประกอบไปด้วย Aston Martin Vantage Roadster สปอร์ตเปิดประทุน และ Aston Martin DBX 707 รถ SUV ประสิทธิภาพสูงเวอร์ชั่นพิเศษ ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ในราคา 24.9 ล้านบาท

อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ Aston Martin DBX 707 ได้ที่นี่


Audi

 

ที่บูธของ Audi ค่ายรถยนต์สี่ห่วงจากเมือง Ingolstat แม้ว่าจะไม่มีรถเปิดตัวใหม่ แต่ก็ยกขบวนรถทุกรุ่นที่ถูกนำเข้ามาจำหน่ายให้ท่านที่สนใจได้แวะมาสัมผัสกัน ตั้งแต่น้องเล็กของค่ายอย่าง Audi Q3 ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง Audi e-Tron GT และรถยนต์ตระกูล RS หลากหลายรุ่นที่มากันอย่างครบถ้วน และ Audi TT Final Icon Black รุ่นพิเศษสั่งลา 200 คันสุดท้าย ก่อนเลิกทำตลาดทั่วโลก

อ่านข้อมูลของ Audi TT Final Icon Black ได้ที่นี่


Bentley

 

ที่บูธของ Bentley มีการนำรถมาจัดแสดงทั้ง Bentley Bentayga รถ SUV ขนาดยักษ์ และ Bentley Flying Spur ซีดาน 4 ประตู โดยในช่วงหลัง ทางแบรนด์ได้เริ่มนำเข้ารถยนต์หรูเวอร์ชั่น Hybrid มาจำหน่าย โดยสำหรับ Flying Spur มีรุ่นพิเศษชื่อ Mulliner ซึ่งใช้การตกแต่งเฉพาะในหลากหลายจุด ทั้งภายนอกและภายใน มาจัดแสดงด้วย

อ่านข้อมูลของ Bentley Flying Spur Hybrid ได้ที่นี่


BMW / MINI

 

สำหรับค่ายใบพัดสีฟ้าจากแคว้นบาวาเรีย BMW ก็มีรถที่เพิ่งจะเปิดตัวกันไปหมาด ๆ น่าสนใจมาจัดแสดงให้ชมหลายรุ่น รุ่นแรกนั้นคือ All New BMW M2 รถสปอร์ตตัวเล็ก (แต่ราคาและน้ำหนักไม่เล็ก) 6.499 ล้านบาท แลกมากับขุมพลัง 6 สูบแถวเรียงที่ให้พละกำลังสูงถึง 460 แรงม้า และการขับขี่ที่ได้รับการยกย่องของ BMW รุ่น Motorsport

อีกหนึ่งรุ่นที่เป็นไฮไลท์คือ BMW XM รถยนต์ SUV Plug-in Hybrid ขนาดยักษ์ ซึ่งทาง BMW ระบุว่าจะเป็นรถ Flagship ของค่าย และราคาเปิดตัวมาก็ค่อนข้างที่จะหฤโหดพอสมควร 14,899,000 บาท สิ่งที่ผู้ซื้อจะได้กลับมา คือที่สุดของเทคโนโลยีที่ BMW สามารถบรรจุใส่รถ 1 คันเอาไว้ได้

อีกรุ่นที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากพอสมควร คือ All New BMW X1 (U11) นี่อาจจะเป็น BMW คันแรกของใครหลาย ๆ คน ด้วยราคาเปิดตัว 2,249,000 บาท แลกมากับรถ Premium Crossover ขุมพลัง 1.5 ลิตร 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ ที่ให้พละกำลังถึง 156 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบคลัชคู่ DCT ขับเคลื่อนล้อหน้า

อ่านข้อมูลของ All New BMW M2 ได้ที่นี่

อ่านข้อมูลของ BMW XM ได้ที่นี่

อ่านข้อมูลของ All New BMW X1 ได้ที่นี่

นอกเหนือจากนี้ ภายในบูธก็ยังมีการจัดแสดงรถยนต์อีกหลากหลายรุ่น เช่น 3-Series 4-Series 5-Series 7-Series X3 X4 X5 X6 X7 ฯลฯ เรียกได้ว่าให้ไล่เรียงกันทั้งวันก็ไม่หมด แต่ไม่ว่าท่านจะอยากสัมผัสรุ่นไหน ก็น่าจะไม่ผิดหวังในงานนี้

 

ใกล้ ๆ กัน ท่านสามารถชมบูธของ MINI อันเป็นแบรนด์รถยนต์ในเครือของ BMW ซึ่งล่าสุดก็เพิ่งมีการเปิดตัว MINI Hatch Cooper S Resolute Edition อันเป็นรุ่นพิเศษตกแต่งสีดำตัดทองไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีรถ MINI รุ่นอื่น ๆ ไม่ว่าจะทั้งตัวถัง 3 ประตู 5 ประตู Clubman ตัวถังเปิดประทุน และ MINI ขุมพลังไฟฟ้า SE มาให้รับชมด้วย

อ่านรายละเอียดของ MINI Hatch Cooper S Resolute Edition ได้ที่นี่


BYD

 

BYD ค่ายรถยนต์จากประเทศจีนที่ถูกนำเข้ามาดำเนินกิจการโดย Rever Automotive บริษัทในกลุ่มพรประภา หลังจากที่เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า BYD Atto 3 ไปอย่างเปรี้ยงปร้างแล้ว ในงาน Motor Show 2023 นี้ ก็มีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% ใหม่อีกรุ่นหนึ่ง เป็นรุ่นเล็กราคาย่อมเยา BYD Dolphin Standard Range ราคาคาดการณ์จำหน่าย 799,999 บาท มอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 94 แรงม้า และเคลมไว้ว่าสามารถวิ่งได้ 410 กิโลเมตรต่อชาร์จ (ตามมาตรฐาน NEDC)

นอกเหนือจากนี้ ภายในบูธก็ยังมีรถรุ่นอื่น ๆ ที่ถูกนำมาจัดแสดงเพื่อเช็คกระแส และวิเคราะห์ว่ารุ่นใดควรที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นถัดไป ทั้ง BYD Frigate 07 ที่เป็นรถ Crossover ขนาดกลาง ค่อนไปทางใหญ่ BYD Denza D9 ซึ่งเป็นรถ MPV คันยักษ์ รวมไปถึงรถรุ่นอื่น ๆ ที่เคยนำมาจัดแสดงแล้วอย่าง Han Tang หรือ Seal

สามารถอ่านข้อมูลของ BYD Dolphin Standard Range ได้ที่นี่


Ford

 

Ford มีการเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ของรถหลักประจำค่าย ทั้งกระบะ Ranger และ PPV Everest หลากหลายรุ่นกันเลยทีเดียว เริ่มต้นด้วยรุ่น XLS ที่มาแทนรุ่น XLT ซึ่งมีการตัดออปชั่นอุปกรณ์ไปเล็กน้อย แลกมาด้วยราคาที่ถูกลงกว่า 60,000 บาท

สำหรับผู้ที่อยากได้รถกระบะตกแต่งสวย ออปชั่นล้น ๆ ก็ต้องหันไปทาง Ford Ranger Stormtrak ที่เพิ่มชุดตกแต่งภายนอก อาทิเช่น ราวหลังคา สปอร์ตบาร์หลังปรับได้ ระบบช่วยจอด ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลายพิเศษ ฯลฯ และด้วยราคาของรุ่นท๊อปขับเคลื่อน 4 ล้อที่ 1.399 ล้านบาท ก็ทำให้มันเป็นหนึ่งในรถกระบะที่แพงที่สุดที่มีจำหน่ายในไทย ณ ตอนนี้ ถ้าหากไม่นับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง

Ford Ranger Raptor ซึ่งหลังจากที่สร้างความฮือฮาด้วยรุ่น เบนซิน V6 3.0 ลิตร ที่เรียกพละกำลังได้ถึงเกือบ 400 แรงม้า คราวนี้ มีการเปิดตัวรุ่นเครื่อง ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo ซึ่งราคาถูกลงถึง 150,000 บาท และค่าน้ำมันที่ผู้ใช้ต้องจ่ายก็น่าจะลดลงไปมหาศาลเช่นกัน อย่างไรก็ดี ออปชั่นของรถรุ่นนี้ และช่วงล่าง Fox ที่เป็นเอกลักษณ์นั้น ก็ไม่ได้ถูกตัดทอนลงไปแต่อย่างใด

ในส่วนของ Ford Everest นั้น ก็มีการเปิดตัวรุ่นย่อย Wildtrak มาเป็นรุ่นท๊อปใหม่ที่ราคา 1.899 ล้านบาท เป็นการนำเอารุ่นท๊อป Titanium+ เดิมมาตกแต่งภายนอกเพิ่มเติมด้วยรายละเอียดต่าง ๆ สีดำ และมีล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลายใหม่ ทั้งหมดเพื่อเสริมความดุดันให้กับรถ PPV รุ่นนี้

นอกจากนี้ ก็ยังมีการนำเอา Ford Mustang รถสปอร์ตซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและยังคงความนิยมสูงมาจนถึงปัจจุบัน มาจัดแสดงเหมือนเดิม

อ่านรายละเอียดของ Ford Ranger XLS ได้ที่นี่

อ่านรายละเอียดของ Ford Ranger Stormtrak ได้ที่นี่

อ่านรายละเอียดของ Ford Ranger Raptor Diesel ได้ที่นี่

อ่านรายละเอียดของ Ford Everest Wildtrak ได้ที่นี่


GWM

 

สำหรับไฮไลท์โดดเด่นของบูธ GWM นั้น ก็คงหนีไม่พ้น GWM Tank 500 รถ SUV คันยักษ์ขุมพลัง Hybrid ซึ่งกำลังจะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไม่ช้า ในส่วนของราคาของ Tank นั้น จะถูกนำมาเปิดเผยเร็ว ๆ นี้ ซึ่งทางทีมงานก็จะอัพเดทกันให้ท่านผู้อ่านทราบอย่างเร็วที่สุด

นอกเหนือจาก Tank แล้ว ในบูธ GWM ก็ยังมีรถยนต์ที่เปิดตัวไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Haval H6 Haval Jolion และ ORA Good Cat ทั้งเวอร์ชั่นธรรมดา และ Good Cat GT มาให้ท่านได้ลองสัมผัสคันจริงกัน

สามารถรับชมภาพคันจริง และอ่านรายละเอียดสเป็คของ GWM TANK 500 ได้ที่นี่


Honda

 

เช่นเคยเหมือนกับทุกปี ที่บูธของ Honda นั้นมีผู้คนมากหน้าหลายตามาเยี่ยมชมรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อในงานนี้ มีการจัดแสดงรถที่เพิ่งจะเปิดตัวใหม่ด้วยกันถึง 2 รุ่น และมีการเปิดราคาของรถที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุดในงานรุ่นหนึ่ง!

เริ่มต้นกันด้วย Honda WR-V รถ Sub-Compact Crossover ที่มีขนาดเล็ก เพื่อตอบโจทย์สำหรับผู้ที่อยากได้รถที่มีความคล่องตัว แต่ก็มีความอเนกประสงค์แบบรถยกสูง ซึ่งถูกเปิดตัวไปตั้งแต่ก่อนงานแล้ว ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 799,000 – 869,000 บาท

ที่เป็นที่จับตามองกันอย่างมาก และถูกเปิดตัวกันไปในวัน VIP คือ All New Honda CR-V รถ Crossover ยอดนิยมที่รุ่นนี้นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 เข้าไปแล้ว และคราวนี้มาพร้อมกับทั้งขุมพลัง 1.5 ลิตร Turbo ยอดนิยม และขุมพลัง e:HEV ไฮบริด

สุดท้าย มีการเปิดราคาจำหน่ายของ Honda Civic Type R ที่ถูกนำมาจัดแสดงกันตั้งแต่งาน Motor Expo ปลายปีที่ผ่านมา ด้วยราคาเพียง 3.99 ล้านบาท ทำให้ยอดจองของรถ Honda Civic Type R เครื่องยนต์สันดาปล้วนรุ่นสุดท้ายนี้ ทะลุเป้าหมายอย่างรวดเร็วจน Honda ต้องปิดรับจองไปเสียก่อน!

นอกเหนือจากรถใหม่สามรุ่นนี้ ในบูธของ Honda ก็ยังมีรถรุ่นอื่น ๆ เช่น City Civic Accord BR-V HR-V ฯลฯ มาให้ผู้ที่สนใจได้สัมผัสกัน

อ่านรายละเอียดของ All New Honda WR-V ได้ที่นี่

อ่านรายละเอียดของ All New Honda CR-V ได้ที่นี่

อ่านรายละเอียดของ All New Honda Civic Type R ได้ที่นี่


Hyundai

 

ที่บูธของ Hyundai เราอดคิดไม่ได้ว่าการที่พวกเขานำ IONIQ 5 และ IONIQ 6 ซึ่งเป็นรถ Battery EV 100% ของค่ายมาจัดแสดงให้ผู้คนชมนั้น เป็นเหมือนกับสัญญาณบ่งบอกว่า Hyundai Mobility ซึ่งบริษัทแม่จากเกาหลีใต้จะเข้ามาดำเนินการเองนั้น กำลังจะมาตีตลาดรถยนต์ในไทยกันอย่างหนักหน่วงแน่นอน!

สิ่งที่เป็นยิ่งกว่าสัญญาณ คือการเปิดตัว Hyundai Stargazer รถ Mini MPV ที่นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย และจะเข้ามาทำตลาดในเซกเมนต์ที่ค่อนข้างจะมีความดุเดือดอยู่ในปัจจุบัน เมื่อเปิดราคาจำหน่ายไปก็มีคนให้ความสนใจกันพอสมควร และท่านผู้อ่านก็สามารถที่จะลองไปสัมผัสคันจริงเพื่อดูว่ารถรุ่นนี้คุ้มค่าน่าคบหาหรือไม่ กันในงาน

นอกเหนือจากนี้ ก็ยังมี Hyundai Staria รถ MPV คันยักษ์ประจำค่าย และ Hyundai Creta รถ Sub-Compact Crossover พื้นฐานคล้ายกับ Stargazer ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ มาให้สัมผัสคันจริงกันเหมือนอย่างเคย

อ่านรายละเอียดของ Hyundai Stargazer ได้ที่นี่


Isuzu

 

ที่บูธของ Isuzu นั้น ท่านก็สามารถพบกับรถยนต์ยอดนิยมของประเทศไทย ทั้ง Isuzu D-Max และ Isuzu MU-X ในหลากหลายรุ่น หลากหลายสไตล์ รวมไปถึง Isuzu MU-X Phantom Collection อันเป็นรุ่นที่ใช้การตกแต่งทริมสีดำดูดุดันขึ้น แม้ว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากไปกว่านี้ แต่ในอนาคต ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงที่แปลกใหม่ เราก็จะนำมารายงานให้ทราบกันในทันที


Jeep

 

Jeep ภายใต้การกำกับดูแลของ MGC-Asia จัดส่งรถสองรุ่นมาแสดงในงาน Motor Show 2023 ซึ่งก็คือ Jeep Wrangler Rubicon ทั้งเวอร์ชั่น 3 ประตู และ 5 ประตู กับ Jeep Gladiator เวอร์ชั่นกระบะ รถทั้งสองรุ่นนี้เป็นรถหลักของค่ายที่ถูกนำเข้ามาเป็นตัวเปิดตลาดรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อจากอเมริกาแบรนด์นี้


Kia

 

ในปีนี้ Kia นำรถมาจัดแสดงเพียงรุ่นเดียว คือสามรุ่นย่อยของรถ MPV Kia Carnival ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรุ่นย่อยใหม่ Kia Carnival LX อันเป็นรุ่นล่างสุดใหม่ เปิดราคามาเพียง 1,892,000 บาท และเป็นการนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซียแทนเกาหลีใต้เดิม สำหรับรุ่นย่อยใหม่ LX นี้ ออปชั่นต่าง ๆ ก็หายไปมากพอสมควร แต่ราคาจำหน่ายก็ลดลงจากรุ่น EX ไปถึงเกือบ 4 แสนบาทเช่นกัน

สำหรับรายละเอียดออปชั่นของ Kia Carnival LX สามารถอ่านได้ที่นี่


Maserati

 

ดาวเด่นภายในบูธของแบรนด์รถสปอร์ตระดับตำนานอย่าง Maserati ก็น่าจะหนีไม่พ้น Maserati MC20 Cielo ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเปิดประทุนของรถ Supercar รุ่นล่าสุดของค่าย รถรุ่นนี้ใช้ขุมพลังเบนซิน V6 3.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 620 แรงม้า และให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเคลมไว้ที่ 2.9 วินาที

นอกจากนี้ ก็ยังมีการจัดแสดงรถรุ่นอื่น ๆ ของค่าย เช่น Grecale ซึ่งเป็นรถ Crossover ขนาดเล็กรุ่นใหม่ของค่ายที่เพิ่งจะถูกเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว หรือ Maserati Levante ที่เป็นรุ่นใหญ่ขึ้นมาหนึ่งระดับ รวมไปถึงรถซีดานทั้ง Ghibli และ Quattroporte ก็มีมาเช่นกัน


Mazda

 

เพื่อเป็นการเรียกกระแส ทาง Mazda ได้นำรถ EV รุ่นแรกของค่าย Mazda MX-30 เข้ามาจัดแสดงในงาน Motor Show 2023 นี้ หลังจากเปิดตัวในตลาดโลกเมื่อปลายปี 2019 และเพิ่งจะเปิดตัว MX-30 e-Skyactiv R-EV ซึ่งใช้ขุมพลัง Rotary มาเป็นตัวปั่นไฟในรูปแบบ Series Hybrid ไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ข่าวลือที่ว่า Mazda อาจจะนำรถรุ่นนี้เข้ามาจำหน่ายนั้นมีมาระยะหนึ่งแล้ว และถ้าหากมีข้อมูลใดอัพเดท เราก็จะนำมารายงานกันให้ทราบในทันที

นอกเหนือจากนั้น Mazda ก็มีการจัดแสดงรถรุ่นอื่นของค่าย ทั้ง Mazda 2 3 รวมไปถึง Crossover ทั้ง CX-30 CX-5 CX-8 และรถกระบะ BT-50

อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ Mazda MX-30 ได้ที่นี่


Mercedes-Benz

 

สำหรับค่ายตราดาว Mercedes-Benz อันเป็นค่ายรถพรีเมี่ยมที่ชื่อชั้นครองใจคนไทยเป็นอันดับต้นมายาวนาน เพิ่งมีการเปิดตัวรถ Mercedes-EQB 250 AMG Line อันเป็นเวอร์ชั่นขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ 100% ของ Mercedes-Benz GLB โดยโควต้าล็อตแรกนั้นมาในจำนวน 70 คัน และจองหมดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม หรือวันแรกของงาน!

นอกจากนี้ภายในบูธของ Mercedes-Benz มีการจัดแสดงรถหลากหลายรุ่น ครบถ้วน ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าระดับ Flagship ที่ถูกนำมาประกอบในประเทศ และราคาฐานลดลงเหลือเพียง 7.2 ล้านบาทอย่าง Mercedes-EQS รวมไปถึงรถขับเคลื่อน 4 ล้อทรงกล่องประสิทธิภาพสูงอย่าง Mercedes-AMG G63 และ Mercedes-AMG SL43 อันเป็นการกลับมาของรถสปอร์ตสองที่นั่งระดับตำนาน และรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ตั้งแต่ A-Class C-Class E-Class S-Class ไปจนถึง SUV ตั้งแต่ GLA ต่อเนื่องไปยัน GLS แม้กระทั้งรถตู้ Mercedes-Benz V250d ก็มีมาให้สัมผัสกัน

อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ Mercedes-EQB 250 AMG Line ได้ที่นี่


MG

 

ภายในงาน ทาง MG ได้ทำการเปิดราคาของ MG ES อันเป็นรุ่นปรับปรุงโฉมของ MG EP ให้มีความหรูหรามากขึ้น อุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วนขึ้น แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้น เรียกได้ว่าแก้ไขข้อบกพร่องของ MG EP เดิมตามเสียงเรียกร้องของผู้ที่สนใจได้เกือบจะครบถ้วน เปิดราคาจำหน่ายอยู่ที่ 959,000 บาท

อีกหนึ่งรุ่นที่ถูกนำมาจัดแสดงคือ Maxus 9 อันเป็นรถ MPV ขนาดใหญ่ซึ่งใช้ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 245 แรงม้า และภายในก็มีการอัดออปชั่นเทคโนโลยีมาอย่างเต็มเปี่ยม เปิดรับจองกันโดยยังไม่เปิดราคาจำหน่ายออกมา แต่ MG Maxus 9 นี้ ก็น่าจะสามารถดึงความสนใจจากลูกค้ารถ MPV รุ่นดั้งเดิมได้พอสมควร

นอกจากนี้ รถรุ่นอื่น ๆ ของค่ายที่เปิดตัวไปแล้ว อาทิเช่น MG4 MG5 MG ZS MG VS ฯลฯ ก็ถูกนำมาจัดแสดงให้สัมผัสกัน

อ่านรายละเอียดของ MG ES ได้ที่นี่


Mitsubishi

 

เมื่อเดินเข้าบูธของทาง Mitsubishi มา สิ่งที่โดดเด่นที่สุดดูเหมือนจะเป็นรถกระบะซึ่งถูกพรางลาย จัดแสดงอยู่บนเวทีด้านบน นี่คือ Mitsubishi XRT ว่าที่ตัวแทนของ Mitsubishi Triton ซึ่งกำลังจะถูกเปิดตัวในปีนี้ แม้จะถูกคาดลายพราง แต่ก็พอที่จะเดาเส้นสายของตัวรถจริงกันได้แล้ว และมีข่าวว่า รถรุ่นนี้จะมีขุมพลัง Battery EV 100% มาให้เลือกกันในอนาคตด้วย ถ้าหากมีรายละเอียดเพิ่มเติม เราจะนำมารายงานให้ทราบกันอีกครั้ง

อีกหนึ่งรุ่นที่เพิ่งจะเปิดตัวไปคือ Mitsubishi Xpander Cross รุ่น Minorchange ซึ่งถูกเปิดตัวไปเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และทาง Headlightmag ก็เพิ่งจะจัดกิจกรรมให้ท่านผู้อ่านได้ทดสอบรถรุ่นนี้กัน ก่อนหน้างาน Motor Show 2023 เพียงแปปเดียว รุ่นปรับโฉมนี้ มีการเปลี่ยนมาใช้ระบบเกียร์ CVT และเพิ่มระบบ Active Yaw Control มาช่วยดึงหน้ารถให้สามารถเลี้ยวเข้าได้ตามมือคนขับมากขึ้น และเสียงตอบรับจากผู้ร่วมงานก็เป็นไปในทางที่ดีครับ

นอกจากนี้ ในบูธก็ยังมี Mitsubishi Xpander Outlander และ Triton มาให้ชมกันด้วย

รับชมภาพ Official Mitsubishi XRT ได้ที่นี่

กิจกรรม Headlightmag Presents : Xperience Xpander Cross


Neta

 

นอกเหนือจาก Neta V ที่เปิดตัวไปแล้ว และ Neta S ที่เคยถูกนำมาจัดแสดงในงาน Motor Expo ที่ผ่านมาไปแล้ว ที่บูธของ Neta มีรถใหม่ เป็นรถ Mini Commercial EV รถขนของขุมพลังไฟฟ้าขนาดเล็ก 1 ที่นั่ง ซึ่งเราเห็นแล้วอาจจะชวนให้นึกถึงรถขนของขนาดเล็กของญี่ปุ่นรุ่นหนึ่งเมื่อซัก 20 ปีที่แล้ว

อ่านรายละเอียดของ Neta V ได้ที่นี่


Nissan

 

ในงาน Motor Show ปีนี้ รถในบูธของ Nissan ก็ยังคงเป็นรถที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี แต่ก็มีความเปลี่ยนแปลงบ้างอย่าง Nissan Kicks Model Year 2023 ซึ่งถูกเปิดตัวไปในงาน โดยมีรายละเอียดความเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมออปชั่นที่ขาดหายไปจนครบถ้วน โดยที่ราคาจำหน่ายนั้นก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์ทำได้ดีเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ก็ยังมีการจัดแสดงรถทั้ง Nissan Almera Navara และ Terra รวมไปถึง Nissan Leaf ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงโฉม ไม่ใช่ล็อตเดิมที่ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในไทยตั้งแต่ปี 2018 หรือนี่อาจจะเป็นสัญญาณอะไรบางอย่างกัน?

อ่านรายละเอียดของ Nissan Kicks MY2023 ได้ที่นี่


Peugeot

 

ในบูธของ Peugeot ค่ายสิงห์ฝรั่งเศส มีการเปิดตัว เปิดราคารถใหม่ถึง 2 รุ่นด้วยกัน เริ่มต้นจาก Peugeot 408 PHEV Plug-in Hybrid ซึ่งถูกนำมาจัดแสดงในรูปแบบพวงมาลัยซ้าย แม้ว่าจะมีการประกาศราคาจำหน่ายไปแล้วก็ตาม! โดยรถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์ และมอเตอร์ไฟฟ้า และมีระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน 63 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP

อีกรุ่นหนึ่งที่เปิดราคาไปแล้วคือ Peugeot e-2008 อันเป็นเวอร์ชั่นขุมพลังไฟฟ้า 100% ของรถ Crossover ขนาดเล็กที่เปิดตัวและวางจำหน่ายในไทยมาก่อนหน้าแล้ว และมีการนำ Peugeot 2008 Sport Concept ที่ถูกตกแต่งพิเศษสไตล์รถแรลลี่มาจัดแสดงคู่กันด้วย

นอกจากนี้ ทั้ง Peugeot 3008 และ 5008 อันเป็นรถรุ่นที่ถูกทำตลาดมาซักพักแล้ว ก็ถูกนำมาจัดแสดงเช่นกัน

อ่านรายละเอียดของ Peugeot 408 Plug-in Hybrid ได้ที่นี่ 

อ่านรายละเอียดของ Peugeot e-2008 ได้ที่นี่


Porsche

 

ปีนี้ครบรอบ 30 ปี การเข้ามาทำตลาดของ Porsche ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการผ่านทาง AAS Auto Service จึงมีการจัดทำรถสุดพิเศษ ซึ่งรวมเอาสีของ Porsche 7 สีมาไว้บนรถ Porsche 911 Carrera GTS 30 Years Thailand Edition โดยสีทั้ง 7 สีนั้นเป็นสีประจำวันทั้ง 7 นั่นเอง และเป็นสีทั้งหมดก็สามารถเลือกได้บนรถ Porsche (เพียงแค่ว่าถ้าอยากได้ 7 สี เหมือนรถพิเศษคันนี้ ไม่สามารถสั่งกับ Porsche ได้นะครับ!)

นอกจากนั้น รถรุ่นอื่น ๆ ของ Porsche ตั้งแต่ Macan Cayenne Taycan รวมไปถึงคู่แฝด Boxster และ Cayman ก็ถูกนำมาจัดแสดงในงานด้วย

อ่านข่าวเกี่ยวกับการครบรอบ 30 ปี Porsche ประเทศไทยได้ที่นี่


Rolls Royce

 

สำหรับค่ายอัครมหายานยนต์ Rolls Royce นั้น ในงาน Motor Show 2023 นำรถ 2 คันมาจัดแสดง โดยคันแรกนั้นก็คือ Rolls Royce Cullinan อันเป็นรถ SUV รุ่นแรกของค่าย ผสานเอาทั้งความหรูหรา เข้าไว้กับความสามารถในการลุย

ส่วนอีกคันนั้นคือ Rolls Royce Black Badge Ghost ซึ่งเป็นการนำเอารถรุ่นเริ่มต้นของค่ายมาประดับด้วยเฉดสีดำตัดเทา รวมไปถึงการใช้ทริมการตกแต่งโครเมี่ยมรมดำที่ให้ความสปอร์ตในแบบที่ Rolls Royce ในอดีตไม่เคยเป็น


Subaru

 

สำหรับค่าย Subaru นั้น มีการเปิดตัว Subaru Forester GT และ GT Lite อันเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษของรถ SUV ยอดนิยมประจำค่าย ที่เพิ่งจะได้รับการปรับโฉม Minorchange ไป นอกจากนี้ ในที่สุด ก็มีการนำเอา Subaru WRX เจเนอเรชั่นใหม่ที่เปิดตัวไปแล้ว มาจัดแสดงคันจริงให้เห็นในงานกันเสียที! อีกทั้งยังมีการเปิดรับจอง Subaru BRZ ล็อตใหม่กันอีกครั้งหลังจากที่ปิดรับจองไประยะหนึ่ง และสำหรับผู้ที่สนใจ Subaru XV ก็สามารถมาสัมผัสคันจริงในงานได้เช่นกัน

อ่านรายละเอียดของ Subaru Forester GT และ GT Lite ได้ที่นี่


Suzuki

 

มากันแบบค่อนข้างจะเซอร์ไพรส์ สำหรับ Suzuki Jimny ล็อตใหม่ที่ถูกสั่งมาให้จับจองกัน 50 คันเท่านั้น เจ้า SUV ขับเคลื่อน 4 ล้อจิ๋วรุ่นนี้ แม้ว่าจะมีราคาจำหน่ายที่สูงจากภาษี เพราะเป็นรถนำเข้า CBU จากญี่ปุ่นทั้งคัน แต่ก็ได้รับความนิยมสูงมากจนทาง Suzuki ต้องสั่งเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้ในรูปแบบเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น

สำหรับรุ่นอื่น ๆ ในบูธ ก็มี Suzuki Swift GL NEXT รุ่นตกแต่งพิเศษ และรถของ Suzuki ที่ยังจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันทุกรุ่น ไม่ว่าจะ Ertiga Celerio หรือ Ciaz

อ่านรายละเอียดของ Suzuki Jimny ได้ที่นี่

อ่านรายละเอียดของ Suzuki Swift GL NEXT ได้ที่นี่


Toyota / Lexus

 

สำหรับ Toyota ในปีนี้ รถที่เพิ่งจะเปิดตัวแล้วพร้อมจำหน่ายจริง ก็มี Toyota Yaris Hatchback เวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องด้วยรถรุ่นนี้ไม่ได้มีการปรับไปใช้พื้นฐาน DNGA ใหม่ แต่เป็นการนำเอารถ Yaris Hatchback รุ่นเดิมมาปรับโฉม จึงไม่มีความเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากเท่ากับ Yaris ATIV

ในส่วนของรถที่แปลกตาและน่าสนใจอย่างมาก มีด้วยกัน 2 คัน โดยคันแรกนั้นคือรถทรงลิ่มสีเหลืองที่จอดเด่นอยู่บนเวที และผู้คนกำลังตั้งคำถามอย่างหนักว่า จะเข้ามาขายในไทยไหม? Toyota Prius โฉมใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 5 หลังจากที่ห่างหายไปจากประเทศไทยมานานหลายปี แม้ว่าแฟนคลับของรถรุ่นนี้จะเหนียวแน่นขึ้นมามากในช่วงหลัง

อีกหนึ่งคันนั้นถูกจอดอยู่ด้านล่างเวที และสามารถเปิดเข้าไปชมกันได้คือ Toyota THAI Taxi อันเป็นการนำเอารถ Toyota JPN Taxi อันเป็นรถที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นแท๊กซี่โดยเฉพาะ มาทำสีเขียวเหลืองที่คุ้นเคย และติดตั้งมิเตอร์ของไทยเข้าไป นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของอนาคตรถแท๊กซี่ในประเทศไทย และเราก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งถ้าหากรถรุ่นนี้จะถูกนำมาใช้งานจริง เพราะการออกแบบรถเพื่อให้ใช้งานเป็นแท๊กซี่เป็นหลัก ส่งผลทำให้เกิดเป็นรถที่ที่นั่งโดยสารตอนหลังมีความสบายเป็นอย่างยิ่ง!

อีกหนึ่งรถที่น่าสนใจคือ Toyota Corolla Cross H2 Concept อันเป็นต้นแบบของรถ Corolla Cross ที่ใช้ขุมพลัง Fuel Cell อันเป็นเชื้อเพลิงแห่งโลกอนาคต

นอกเหนือจากนี้ ในบูธของ Toyota ก็มีรถรุ่นอื่น ๆ ของค่ายนำมาจัดแสดงกันอย่างครบถ้วน ขาดเพียงแต่รถตระกูล GR อาทิเช่น Supra หรือ GR86 และ GR Corolla

อ่านรายละเอียดของ Toyota Yaris Hatchback Minorchange ได้ที่นี่

ชมภาพรถในงาน Toyota Thailand Present Carbon Neutral Mobility Event ได้ที่นี่

 

ใกล้ ๆ กัน ที่บูธของ Lexus ก็มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ภายในงาน Lexus RZ 450e อันเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ของค่าย ที่ใช้แพลตฟอร์ม e-TNGA ร่วมกับ Toyota bZ4X แต่ปรับมาใช้ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้พละกำลังถึง 313 แรงม้า อีกทั้งยังมีรายละเอียดต่าง ๆ ที่อัพเกรดขึ้นให้อยู่ในระดับที่ผู้คนคุ้นเคยกับแบรนด์ Lexus

นอกเหนือจากนี้ ก็ยังมีการนำเอารถรุ่นอื่น ๆ อาทิเช่น Lexus IS ES UX RX ฯลฯ มาจัดแสดง

สามารถอ่านรายละเอียดของ Lexus RZ 450e ได้ที่นี่


Volvo

 

สำหรับบูธของ Volvo ใน Motor Show ปีนี้ ยังไม่มีการเปิดตัวรถใหม่ รวมไปถึง Volvo EX90 ที่หลายคนอาจจะตั้งหน้าตั้งตารอ แต่สำหรับผู้ที่สนใจรถอย่าง Volvo C40 XC40 S60 V60 XC90 S90 ตระกูล Recharge ก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมและสัมผัสกันได้